เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช อยุธยา 2506 เป็นเหรียญรุ่นแรกของท่านสร้างในพิธีฉลองพัดยศและยังได้นำเข้าร่วมในพิธีปลุกเสกพิธีใหญ่ ที่ วัดประสาทบุญญาวาส กทม.เมื่อปีพ.ศ.2506 ซึ่งพิธีครั้งนั้นได้รวมสุดยอดพระเกจิอาจารย์มาจาก ทั่วประเทศ
หลวงพ่อเทียม อดีตเจ้าอาวาสวัดกษัตราธิราชวรวิหาร ต.บ้านป้อม อ.พระนคร ศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งกรุงเก่า เป็นผู้สืบสายวิชา ตำราพิชัยสงครามกับตำรามหาระงับพิสดาร จาก วัดประดู่ทรงธรรม ว่ากันว่าท่านเป็นผู้สำเร็จตำราพิชัยสงครามของสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว ( พระอาจารย์ของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ) วัตถุมงคลที่ท่านอธิษฐานจิตปลุกเสกโด่งดังไปไกล และได้รับความนิยมจากบรรดานักสะสมนิยมพระเครื่อง และที่กล่าวขวัญกันมาก อย่างเช่น ตะกรุด 4 มหาอำนาจ มหาปราบ ,มหาระงับ, ตะกรุดแม่ทัพ,ตะกรุดโทน วัตถุมงคลของหลวงพ่อเทียม มีความศักดิ์สิทธิ์ พุทธคุณเข้มขลัง ผู้มีไว้ในครอบครองบูชาล้วนแต่มีประสบการณ์อัศจรรย์ เชื่อกันว่าจะทำให้ปลอดภัย มีแต่ความร่มเย็นปราศจากภยันตรายทั้งปวง
หลวงพ่อเทียม ท่านเป็นพระเถระที่มีความเชี่ยวชาญด้านการวิปัสสนากัมมัฏฐาน และเป็นพระนักพัฒนาที่ได้รับความเลื่อมใสจากประชาชนพระนครศรีอยุธยา ท่านเริ่มต้นเรียนวิชาไสยศาสตร์แบบ ลบผง ลงยันต์กับอาจารย์ทรัพย์ ผู้เป็นลุงและนายสุ่นผู้เป็นบิดา พร้อมกับเรียนวิชาธาตุกสิณกับนายเงิน ผู้เป็นอา
เมื่ออายุ 20 ปีท่านได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดกษัตราธิราช เมื่อวันศุกร์ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 8 ปีชวด ตรงกับวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ.2467 โดยมี พระครูวินยานุวัติคุณ (มาก อินทโชติ) เจ้าอาวาสวัดกษัตราธิราชเป็นพระอุปัชฌาย์ และได้ศึกษากรรมฐานกับหลวงพ่อสี วัดสนามชัย และ อาจารย์จาบ วัดโบสถ์ อำเภอมหาราช ,ศึกษาเพิ่มเติมกับอาจารย์เหม็ง วัดประดู่ทรงธรรม และหลวงพ่อม่วง วัดโบสถ์
หลังจากนั้นท่านมาที่วัดประดู่ทรงธรรมอีกครั้งเพื่อศึกษาวิชากสิณ และเริ่มเรียนวิทยาคม เช่น เป่า พ่น ปลุกเสกลงเลขยันต์ ตามตำหรับวัดประดู่ทรงธรรม หลังจากนั้นย้อนกลับมาวัดกษัตราธิราช ท่านได้นำตำราพิชัยสงครามกับตำรามหาระงับพิสดาร รวมถึงตำราเลขยันต์ติดตัวมาด้วย
หลังจากนั้นไม่นานก็เดินทางไปศึกษากรรมฐานเพิ่มเติมอีกครั้งที่วัดวรนาถบรรพต (วัดเขากบ) นครสวรรค์ เมื่อศึกษาสำเร็จได้ตามที่ท่านตั้งใจแล้ว ท่านยังมาเป็นลูกศิษย์ ของก๋งจาบ ฆราวาสจอมขมังเวทย์ยุคเก่าสายวัดประดู่ทรงธรรมอีกด้วย
หลวงพ่อเทียม ท่านเป็นพระเถระที่ฝักใฝ่อยู่ในวิปัสสนาธุระ และมั่นคงอยู่ในเพศพรหมจรรย์ ตลอดชีวิตสมณะท่าน ท่านให้ความคุ้นเคยเป็นกันเองกับลูกศิษย์ทุกชนชั้น ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง เพราะท่านมีความเมตตาให้แก่ลูกศิษย์ลูกหา ไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกลเมื่อมาพบท่านจะได้รับความเมตตาตลอด อีกด้านหนึ่งท่านมีภาระต้องดูแลการบูรณะถาวรวัตถุภายในวัด ท่านจะใส่ใจดูแลสั่งการด้วยตนเอง และด้วยความที่ท่านต้องตรากตรำต่องานดูแลการบูรณะถาวรวัตถุภายในวัดนี่เอง จึงเป็นเหตุให้ ท่านเกิดอาพาธเป็นโรคอัมพาตขึ้นเมื่อประมาณกลางปี พ.ศ.2517 จนท่านไม่สามารถจะไปไหนต่อไหนได้เหมือนแต่ก่อน กระทั่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ในวโรกาสเสด็จพระราชดำเนินทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้ากฐินส่วนพระองค์ ณวัดศีลขันธาราม ตำบลอ่างแก้ว อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ.2517
ขณะนั้นหลวงพ่อเทียม ท่านจึงมอบให้พระสำรวย รองเจ้าอาวาส วัดกษัตราธิราช นำรูปจำลองของท่านพร้อมด้วยตะกรุดมหาระงับแบบพิสดาร ลงตามตำรับเดิมของวัดประดู่ทรงธรรม เป็นโลหะตะกั่วถักด้วยด้ายและลงรักปิดทอง เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 ซม. ยาว 12 นิ้ว ขึ้นทูลเกล้าฯถวายแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีหนังสือกราบทูลถึงสาเหตุที่ไม่สามารถมาทูลเกล้าฯถวายด้วยตนเองได้ เนื่องจากอาพาธด้วยโรคอัมพาต จากนั้นไม่นาน ทางวัดกษัตราธิราชก็ได้รับแจ้งจาก ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทรงทราบว่าเจ้าอาวาสวัดกษัตราธิราชอาพาธ จึงมีพระราชประสงค์ จะนิมนต์ท่านเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในกรุงเทพมหานคร ต่อมาท่านจึงได้เดินทางเข้าไปรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์โดยเป็นคนไข้ ในพระบรมราชานุเคราะห์ ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นเวลา 1 เดือน และหลังจากที่อาการดีขึ้นตามลำดับ คณะแพทย์จึงอนุญาตให้กลับมาพักผ่อนที่วัดตามอัธยาศัย
วัตถุมงคลของท่านนอกจาก เหรียญรุ่นแรก พ.ศ.2506 แล้ว ยังมีรูปหล่อโบราณเนื้อโลหะผสมชนวนยันต์รุ่นแรก พ.ศ.2508 จำนวน 1,000 องค์ ใต้ฐานหลวงพ่อเทียมได้จารคำว่า “เทียม” สร้างถวายโดยพระสมุห์อำพล วัดประสาทบุญญาวาส กรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังมีพระนาคปรก พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์อโยธยา , พระกริ่งพระพทุธกษัตราภิมงคล , รูปหล่อรุ่นแรก, พระเนื้อผงพิมพ์โบราณ , พระขุนแผนเคลือบ, พระพิมพ์สมเด็จเนื้อผง ,พระปรกใบมะขามมหาสิทธิโชค และเหรียญรูปเหมือนอีกหลายรุ่น รวมถึง ล็อกเกต-รูปถ่าย-เครื่องราง , ตะกรุดอีกหลายแบบ
หลวงพ่อเทียม ท่านเกิดเมื่อวันเสาร์ขึ้น 3 ค่ำ เดือนอ้าย ปีมะโรง ตรงกับวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ.2447 ในรัชกาลที่ 5 มรณภาพ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2522 หลวงพ่อละสังขาร ด้วยอาการสงบ สิริอายุได้ 75 ปี 55 พรรษา