เสกขุนแผนพราย 65 วาระที่ 5 ปู่สมัยเขี้ยวแก้ววาจาสิทธิ์ (โจ)

เสกขุนแผนพราย 65 วาระที่ 5 ปู่สมัยเขี้ยวแก้ววาจาสิทธิ์ (โจ)
เสกขุนแผนพราย 65 วาระที่ 5 ปู่สมัยเขี้ยวแก้ววาจาสิทธิ์ (โจ)เสกขุนแผนพราย 65 วาระที่ 5 ปู่สมัยเขี้ยวแก้ววาจาสิทธิ์ (โจ)เสกขุนแผนพราย 65 วาระที่ 5 ปู่สมัยเขี้ยวแก้ววาจาสิทธิ์ (โจ)เสกขุนแผนพราย 65 วาระที่ 5 ปู่สมัยเขี้ยวแก้ววาจาสิทธิ์ (โจ)เสกขุนแผนพราย 65 วาระที่ 5 ปู่สมัยเขี้ยวแก้ววาจาสิทธิ์ (โจ)เสกขุนแผนพราย 65 วาระที่ 5 ปู่สมัยเขี้ยวแก้ววาจาสิทธิ์ (โจ)เสกขุนแผนพราย 65 วาระที่ 5 ปู่สมัยเขี้ยวแก้ววาจาสิทธิ์ (โจ)เสกขุนแผนพราย 65 วาระที่ 5 ปู่สมัยเขี้ยวแก้ววาจาสิทธิ์ (โจ)เสกขุนแผนพราย 65 วาระที่ 5 ปู่สมัยเขี้ยวแก้ววาจาสิทธิ์ (โจ)เสกขุนแผนพราย 65 วาระที่ 5 ปู่สมัยเขี้ยวแก้ววาจาสิทธิ์ (โจ)เสกขุนแผนพราย 65 วาระที่ 5 ปู่สมัยเขี้ยวแก้ววาจาสิทธิ์ (โจ)เสกขุนแผนพราย 65 วาระที่ 5 ปู่สมัยเขี้ยวแก้ววาจาสิทธิ์ (โจ)
หมวดหมู่ รวมภาพการสร้าง ขุนแผนพราย ที่ดีที่สุดในประเทศ
ราคา 99,999.00 บาท
สถานะสินค้า พร้อมส่ง
คงเหลือ ไม่จำกัด
จำนวน
ชิ้น
หยิบลงตะกร้า
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay



ภาพการปลุกเสกขุนแผนพราย 65 ได้รับความเมตตาจาก หลวงปู่โจเขี้ยวแก้ว วิชาอาคมพลังจิตการเสกของต้องยกให้ท่านเลยครับในเขตอีสานใต้เสกได้ขลังสุดยอด อธิษฐานจิตนานเกือบชั่วโมง


#ประวัติหลวงปู่สมัยเขี้ยวแก้ววาจาสิทธิ์ (โจ)


หลวงปู่สมัย สิริปัญโญ มีชื่อเดิมว่า สมัย ดาศรี ชื่อเล่นท่านมีชื่อว่าโจ มีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่ บ้านสวายน้อย ต.บุแกรง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ ท่านมีพี่น้องทั้งหมดร่วมกัน6คน หลวงปู่สมัยท่านเป็นบุตรคนโต เกิดวันที่1ธันวาคม พ.ศ 2491 วันศุกร์ ขึ้น1ค่ำเดือนอ้าย(1) ปีชวด. บิดาของท่านเป็นหมอธรรมที่โด่งดังมากเรื่องช่วยเหลือผู้ที่โดนของถูกคุณไสย์ ในอำเภอจอมพระเป็นที่พึ่งของชาวบ้านแถบนั้นเลยก็ว่าได้ในสมัยนั้น ชีวิตในวัยเยาว์ของหลวงปู่นับได้ว่าเป็นเด็กที่ค่อนข้างแปลกไม่เหมือนเด็กๆทั่วไป เพราะท่านไม่สนใจเรื่องเที่ยวเล่นแบบเด็กปกติ กลับสนใจแต่เรื่องวิชาอาคมเร้นลับต่างๆนานา เรื่องราวของเหล่าเทพดาบสฤาษีนักบวช ทุกครั้งที่โดนดุโดนด่าหรือโดนตีท่านก็จะวิ่งออกไปที่สระน้ำแถวนอกหมู่บ้าน ไปนำเอาดินเหนียวมาปั้นเป็นรูปพระพุทธรูปบ้างรูปเทวดาบ้างหรือไม่ก็ฤๅษี พออารมณ์ดีขึ้นแล้วถึงจะกลับเข้าบ้าน ท่านได้ศึกษาและร่ำเรียนคาถาเรียนธรรมกับบิดาของท่าน ถือว่าท่านเป็นคนไม่ยอมคน พูดๆง่ายๆนักเลงเก่า ท่านบอกท่านไม่เคยไปหาเรื่องใครก่อน มีจิตใจเมตตาชอบช่วยเหลือเพื่อนๆและผู้ใดที่โดนรังแก



ต่อมาเมื่อช่วงปี พ.ศ 2513 ความสนใจในศาสตร์เร้นลับของท่านมากขึ้นจนทนอยู่กับผู้คนทั่วไปได้ยาก พิจารณาอยู่หลายวันท่านจึงตัดสินใจ นุ่งขาวและเอาจริงเอาจัง ท่านเที่ยวศึกษาร่ำเรียนวิชาอาคมต่างๆที่ได้ยินว่าที่ไหนดีที่ไหนดัง และทำไห้ท่านได้ร่ำเรียนวิชาเกี่ยวกับเส้นสายลายยันต์สายพ่อแก่ในช่วงเวลานี้เอง



#แต่ถึงกระนั้นท่านก็รู้สึกว่ายังไม่เจอสิ่งที่ตนต้องการ ท่านจึงได้ตัดสินใจบวช เป็พระภิกษุ(บวชในครั้งแรกปี2513) และได้จำพรรษาอยู่ที่วัดเขาช่องกระจก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในระหว่างที่จำพรรษาอยู่นั้นหลวงปู่ได้พยายามฝึกฝนบำเพ็ญอย่างหนักโดยไม่มีใครสอน การฝึกโดยไม่รู้ทิศทาง ท่านเคร่งสมาธิจิตเพ่งกสินหนักเกินไป จนเกิดอาการปวดร้าวดวงตาเหมือนตาจะบอด รวมถึงเส้นสายตามตัวก็ปวดร้าวจนเกินจะทน ทรมารแสนสาหัสในขณะนั้น(ในปี2514-15ซึ่งอยู่ในพรรษาที่2)
#เมื่อเกิดอาการเช่นนั้นหลวงปู่จึงพิจารณาว่าขืนเป็นแบบนี้ต่อไปคงไร้ประโยชน์ จึงได้ตัดสินใจลาสิกขาเพื่อไปรักษาอาการที่เกิดขึ้นอยู่ ในขณะนั้น


และในช่วงที่ท่านได้ลาสิกขาออกมานั้น ท่านก็มานุ่งขาวเช่นเดิม และได้แต่งงานมีครอบครัว. มีบุตร2คน
#ในช่วงนี้เองท่านได้เริ่มเอาจริงเอาจังตามแนวสายวิชาที่ได้ร่ำเรียนมาจากทั่วสารทิศทุกรูปแบบเลยก็ว่าได้ แล้วท่านหันมาสักเสกเลขยันต์ไห้เหล่าบรรรดาลูกศิษย์ทั้งหลาย (โด่งดังสายพ่อแก่ในขณะนี้ทั้งในและต่างประเทศหลายท่านด้วยกันที่เป็นศิษย์ท่าน)
⏩#อยู่แถวเขตปากน้ำสำโรงภาษีเจริญ และปทุมธานี
#ในช่วงประมาราวปี2520-28นี้เองที่ท่านค่อนข้างมีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมากในขณะนั้นเพราะลายสักของท่านอัดแน่นไปด้วยความเข้มขลังอย่างมาก
#ต่อมาในปี พ.ศ 2535-36 หลวงปู่ก็ต้องพบกับสิ่งที่ทำไห้ตนไม่สามารถทนรับได้ เมื่อท่านต้องสูญเสียลูกชายอันเป็นที่รักไปอย่างไม่ไม่วันกลับ ท่านเศร้าเสียใจอย่างมากจนถึงขั้นสติหลุดไม่รู้เนื้อรู้ตัว เรียกได้ว่าแทบบ้าก็ว่าได้ในตอนนั้นจิตใจสับสนไปหมด
ด้วยความโศกเศร้าจากเรื่องราวดังกล่าว #จึงทำไห้ท่านเกิดดวงตาเห็นธรรมว่า ทำไมหนอใจเราถึงได้เศร้าได้ทุกข์ขนาดนี้
#ท่านจึงตัดสินใจ ออกบวชอีกครั้งที่วัดถุ้ำนิรภัย (คีรีล้อม) จ.นครสวรรค์ ในปี2536
ซึ่งการออกบวชในครั้งนี้หลวงปู่มุ่งมั่นจะดับความทุกข์ในใจของตัวเองไห้จงได้ ท่านจึงได้ออกธุธงค์ ฝึกจิต นั่งกรรมฐานตามสายหลวงปู่ฤๅษีลิงดำ ปฏิบัติเรื่อยมาจนแตกฉานในธรรม ไปเรื่อยๆไม่อยู่ที่ไหนนาน อยู่ที่นั่น1พรรษา2พรรษา ก็ออกเดินธุดงธ์ต่อไปเรื่อยๆแบบไม่มีจดหมายปลายทาง
เที่ยวจาริกธุดงค์ ไปตลอด ตั้งแต่ภาคเหนือจรดใต้ ไปถึงพม่า กัมพูชา ลาว นับได้ว่าท่านไปมาทั่วแล้ว
#เมื่อปี2539ท่านมาจำพรรษาที่วัดสุทธิยาวนารามบ้านคูตัน จำพรรษาอยู่ที่นี่2พรรษากว่า. จากนั้นเมื่อปีพศ.2541-42ท่านเห็นว่าวัดป่าหลักชัยไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่. บ้านหมอนเจริญ ต.กาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์
#มีวัดนี้ที่หลวงปู่จำพรรษาอยู่นานมาก และได้พัฒนาจนเจริญรุ่งเรืองและสร้างพระพุทธรูปใหญ่องค์ปฐมหน้าตักร่วม6-9เมตร อยู่หน้าวัดป่าหลักชัย
#เพราะในการเที่ยวธุดงค์ของท่านไม่ได้มุ่งปฏิบัติกรรมฐานเพียงอย่างเดียว แต่ทุกที่ที่ท่านไปท่านจะไปช่วยบูรณะวัดวาอารามตรงนั้นทุกที่ไม่มากก็น้อย
#และช่วงนี้เองลูกศิษย์ลูกหาจากทั่วสารทิศมาสักเลขเสกยันต์มีชื่อเสียงโด่งดังมากดูดวงแม่นเหมือนตาเห็น ท่านใดที่มาบนบานสารกล่าวต่างๆไม่ผิดหลังเลยสักราย และเรื่องสอนกรรมฐานฝึกมโนมยิทธิ ท่านแตกฉานมากเรื่องนี้ ลูกศิษย์และชาวบ้าน
อ.กาบเชิงจะทราบดี #และท่านก็ได้สร้างวัตถุมงคลมาจำนวนหนึ่งเริ่มทำตั้งแต่ปี49ส่วนมากจะแจกหรือให้ทำบุญในงานไหว้ครู ซึ่งมีลูกศิษย์ทางกรุงเทพนำบล๊อกมาถวายให้หลายพิมพ์ด้วยกัน....พอฉลองสมโภชพระองค์ใหญ่หลักชัยเสร็จ #เมื่อปีพศ.2555ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนหลวงปู่สมัยท่านธุดงธ์จากวัดป่าหลักชัยโดยไม่ใยดีปล่อยให้ชาวบ้านห่วงหาอาลัยตามหาหลวงปู่ว่าท่านไปไหน..พอมารู้อีกทีท่านธุดงธ์ไปอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดศรีสะเกษ วัดโคกแก้ว อ.ขุขันธ์ุ
อยู่ได้3พรรษากว่าๆท่านก็ธุดงธ์กลับมาสุรินทร์อีกครั้งที่วัดธาตุโบราณ อ.สังขะ 1พรรษา ต่อจากนั้นก็ธุดงด์ไปภาคเหนือ จังหวัดเชียงราย ส่วนมากหลวงปู่ท่านจะไม่ชอบอยู่กับที่ พอคนเยอะๆท่านก็จะไม่อยู่ท่านชอบอยู่ปฏิบัติกรรมฐานตามป่าเขาลำเนาไฟรเป็นแบบนี้เรื่อยมา....
#พอมาปี2561เมื่อต้นปีชาวบ้านและลูกศิษย์ชาวจังหวัดสุรินทร์ดีใจมาก ที่หลวงปู่สมัยท่านจะกลับมาอยู่สุริทร์อีกครั้ง และท่านก็มาจริงๆครับ

🙏⏩ หลวงปู่สมัย สิริปัญโญ นับได้ว่าเป็นพระที่มีปฏิปทาสูงส่งอีกรูปหนึ่ง ท่านเพียรปฏิบัติกรรมฐานทุกวันทุกเวลาไม่เคยหยุดแม้แต่สังขารท่านไม่อำนวยในช่วงหลังๆมานี้ สังขารของท่านเริ่มโรยราลงไปมาก มีโรคภัยมากมายมาทับถมท่านบอกมันเป็นกรรมเก่าถึงเวลาของเขา #แต่การปฏิบัติของท่านก็ไม่หย่อนลงไปแม้แต่น้อย จนถึงปัจจุบันนี้




#พระพุทธเจ้าไม่ได้ให้เราหยุดอยู่แค่เรื่องศรัทธาเท่านั้น
ศรัทธาความเชื่อเอามาใช้ในตอนต้นเท่านั้น หลวงปู่ท่านบอกว่าให้ใช้ประโยชน์จาก..ศรัทธาให้เต็มที่ คือ..ฝึกฝนตนเองจนกระทั่งเห็นจริงอย่างที่ฟังครูบาอาจารย์สอนมา ให้พระรัตนตรัย #เป็นกัลยาณมิตร เป็นกำลังใจสำหรับการเดินก้าวไป หากยังไม่รู้ให้มาถาม ให้มาฟัง ศึกษาให้เข้าใจ #จะได้เป็นแผนที่ในการเดินทางดำเนินชีวิต หากเราเดินออกไปเผชิญโลกกว้างแล้วรู้สึกเหนื่อยอ่อนล่าหมดแรงให้เรานึกถึงครูบาอาจารย์ เพื่อให้มีกำลังใจเดินต่อไป #หลวงปู่บอกว่าคนส่วนใหญ่ มีพระรัตนตรัยครูบาอาจารย์เป็นที่พึ่ง แค่นี้เราก็สบายแล้ว จะได้ไม่ต้องทำอะไรอีก มีหลวงพ่อหลวงปู่เป็นที่พึ่งแล้วอยู่เฉยๆ.คนส่วนมากคิดแบบนี้ #เพราะเราชอบพึ่งคนอื่น พอพึ่งคนอื่นได้เราก็สบายใจไม่คิดจะทำอะไร #มันประมาทเกินไปนะ....




#พระผู้มีวัตรปฏิบัติเคร่งครัดปฏิปทาน่าเสื่อมใสมาก หลวงปู่ท่านเคยเล่าให้ฟังว่าก่อนหน้านี้ท่านมีโรคมากมายแม้แต่โรคไตที่ต้องไปฟอกทุกอาทิตย์ไหนจะความดันและเบาหวาน หนักเข้าไปอีกโรคหัวใจ ยังมาถามหาเรียกได้ว่าวันละโรคเลยก็ว่าได้ท่านทนโรคเหล่านี้ไม่ไหวท่านบอกมาตายที่สุรินทร์บ้านเกิดดีกว่า ท่านบอกว่าร่างกายไม่ไหวโรคมันเยอะ #หมอบอกให้ทำใจ ลูกศิษย์ลูกหลานท่านทราบดี เรื่องนี้ แต่..อยู่ๆหลวงปู่ท่านกลับแข็งแรงผิดปกติหมอนัดให้ไปตรวจกลับไม่เจอโรคไตหัวใจปกติความดันไม่มีเบาหวานหายไป.เป็นที่น่าแปลกใจมาก. #ท่านเล่าให้ฟังว่ายังไม่หมดอายุไขมันยังไม่ถึงเวลาเขามาส่งคืนพอผู้ฟังได้ยินได้แต่งงๆ..แต่ก็ไม่กล้าถาม..




#มีคนสงสัยเคยมาถามท่านว่าวัตถุมงคลของท่านทำมาตั้งแต่ตอนไหน..ท่านบอกทำไปเรื่อยๆทำไว้แจกลูกศิษย์..ไม่ได้โฆษณาแต่อย่างใด. เพราะของดีไม่ต้องไปโฆษณา. ให้คนเอาไปใช้เขาจะได้รู้เอง..อัตมาตั้งใจทำมากับมือต่อไปจะหายาก #อัตมาทำเครื่องรางของขลังมาเรื่อยๆตั้งแต่ปี 2536 แต่ไม่เคยประกาศให้ใครรู้มีแต่บอกต่อกัน ถ้าไม่มีดีคงไม่สร้าง "วัตถุมงคลทุกอย่างที่อัตมาสร้างจะไม่มีวัดเสื่อมอัตมามั่นใจ " เมื่อปี2557ที่อ.ขุขันธ์ หลวงปู่ท่านไปเข้ากรรมปฏิบัติเข้านิโรธ7วันเต็มๆท่านเล่าบอกว่าอารมณ์ตอนนั้นเหมือนเราอยู่ในเมืองๆหนึ่งไม่ร้อนไม่หนาวอากาศกำลังดีไม่มีความหิวไม่ทรมารแต่อย่างใด...#หลังจากท่านกลับมาที่วัดตรงกับวันโกนพอดี มีลูกศิษย์3รูปปกติจะปลงผมให้ท่านแต่วันนั้นมันเกิดอะไรขึ้นลูกศิษย์ พระ3รูปมองหน้ากันผลออกมาคือมีดโกนไม่สามารถทำอะไรผมของหลวงปู่ได้เลย...ขนาด วนกันทั้ง3รูปแล้วยังโกนไม่ได้ หนึ่งในนั้นก็มี.อ.ถนอม อ.เฉลิม อ.ศักดิ์..#จนในที่สุดหลวงปู่ท่านบอกให้ไปเย็บกรวยทำขัน๕มาขึ้นถึงปลงผมได้...อีกเรื่องราวของท่านที่แปลกเหลือเชื่อ..แต่จริง...




“เรื่องเขี้ยวแก้ว “ นับว่าเป็นของกายสิทธิ์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเฉพาะผู้มีบุญวาสนาบารมีสูงเท่านั้น ซึ่งเขี้ยวแก้วนี้มีมาแต่เกิด....ประวัติบางตอนของหลวงปู่สมัยครับ....สาธุๆ
เชิญทุกท่านเข้ากราบขอพรท่านได้ที่..
ที่พักสงฆ์สิริปัญโญ ใกล้วัดป่าสุทธิยาวนาราม ต.คูตัน จ.สุรินท
#นับได้ว่าปู่สมัยท่านเป็นพระสงฆ์ปฏิบัตดีปฏิบัติชอบอีกรูปที่กราบได้อย่างสนิทใจโดยแท้....
"ปูชาจะปูชะนียานัง เอตัมมังคะละมุตตะมันต"ิ
บูชาผู้ควรถูกบูชา ถือได้ว่าเป็นมงคลอันสูงสุด 




วิธีการสั่งซื้อสินค้า

ขั้นตอนที่ 1
เลือกสินค้าที่คุณต้องการ โดยคลิกปุ่มสั่งซื้อ / หยิบลงตะกร้า
ขั้นตอนที่2
เมื่อเลือกสินค้าครบแล้ว ให้คลิกปุ่มสั่งซื้อสินค้าในตะกร้าสินค้า
ขั้นตอนที่ 3
กรอกรายละเอียดให้ครบถ้วน จากนั้นคลิกปุ่มยืนยันการสั่งซื้อ
ขั้นตอนที่ 4
ชำระค่าสินค้าและบริการ สามารถดู วิธีการชำระเงินได้ที่นี่
ขั้นตอนที่ 5
แจ้งการชำระเงินผ่านทางหน้าเว็บไซต์ แจ้งชำระเงิน
ขั้นตอนที่ 6
เมื่อทางร้านตรวจสอบรายการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว จะจัดส่งสินค้าให้คุณทันที

วิธีการชำระเงิน

บมจ. ธนาคารกสิกรไทย สาขาเซ็ลทรัล รามอินทรา ออมทรัพย์

รายการสินค้า

ผู้ชมทั้งหมด808,839 ครั้ง
เปิดร้าน12 ก.ย. 2559
ร้านค้าอัพเดท6 ก.ย. 2568
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านสิริเครื่องรางมหาเสน่ห์
สิริเครื่องรางมหาเสน่ห์
รับทำเสน่ห์ เรียกจิต ผ่าจ้าน แยกมือที่สาม ให้บูชาเครื่งรางเสน่ห์ เครื่องรางสายพราย ทุกชนิด
เบอร์โทร : 0924515589
อีเมล : sirimabang@gmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม