ขุนแผนแสนเยสเนื้อดินดิบกระซิบรัก ( ไม่หยุดพักทั้งเรื่องรัก ยักย้ายส่ายสวาท ) พ่อครูศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจ (F)

เนื้อดินดิบกระซิบรัก ไม่หยุดพักทั้งเรื่องรัก ยักย้ายส่ายสวาท ( พ่อขุนแผนแสนเยส รูปทรงแปดเหลี่ยม ) หมายถึง ผู้คนทั้งแปดทิศมาห้อมล้อมให้ความเมตตาเสน่หา ผูกสมัครรักใคร่ รูปพ่อขุนแผนนอนหนุนตักเชยพักตร์ มีสาวงามอีกนางนวดเท้าให้ แฝงสิ่งต้องประสงค์ของชายทุกคนที่ปรารถนาให้บรรดาสาวงามของตนปรองดวงผูกสมัครรักชายในดวงใจ อย่างไม่หมางใจกันเลย เขาซ่อนเล่ห์เสน่ห์เมตตาสมัครสมานกลมเกลียวเหนียวแน่นในความรักไว้ในวัตถุอาถรรพ์ พ่อขุนแผนแสนเยส  …

ส่วนวัตถุอาถรรพ์มวลสารที่นำมาจัดสร้างนี้ ล้วนเป็นของทางสายเสน่ห์แบบฆราวาส ที่ทำไว้อย่างถึงพริกถึงขิงที่ครูหมอโกเมศทำทิ้งไว้ก่อนละสังขาร ไม่มีมวลสารประเภทผงกระดูกหรือผีพลายที่ทำให้เกิดผลร้ายแก่ผู้บูชาในภายหลัง โดยมวลสารต่างๆใน ( ขุนแผนแสนเยส ) ที่ทำออกมานั้นถือได้ว่าแยกการนำไปใช้อย่างชัดเจนตามแต่ละเนื้อ ใช้ได้ดีกับทุกเพศ ทั้งชาย หญิง และเพศที่สาม ทำเพื่อครอบคลุมความต้องการและตอบสนองปัญหา สำหรับผู้ฅนในยุคปัจจุบัน ขุนแผนแสนเยส เนื้อดินดิบกระซิบรัก ไม่หยุดพักทั้งเรื่องรัก ยักย้ายส่ายสวาท 

ดินที่ทำพ่อขุนแผนแสนเยส นี้เป็นดินที่ครูหมอโกเมศเก็บสะสมไว้เป็นดินอาถรรพ์จากป่าทั้งของไทย เขมร ลาว พม่า และชวา “ พ่อหมอวีธีร “ นำดินเจ็ดท่าน้ำข้ามฟากที่มีผู้ฅนใช้อย่างล้นหลาม ดินยอดจอมปลวก ดินโป่ง รวมถึงส่วนผสมอาถรรพณ์พลังแรงทางเสน่ห์  …

และวัตถุอาถรรพ์มวลสารที่นำมาจัดสร้างนี้ล้วนเป็นของทางสายเสน่ห์แบบฆราวาสที่ทำไว้อย่างถึงพริกถึงขิงที่ครูหมอโกเมศทำทิ้งไว้ก่อนละสังขาร ไม่มีมวลสารประเภทผงกระดูกหรือผีพรายที่ทำให้เกิดผลร้ายแก่ผู้บูชาในภายหลัง ผสมลงไปก่อนปั๊มขึ้นรูป จากนั้นจึงนำไปทำพิธีเก็บไว้ในสถานที่มีพลังอุดมมงคล 1เดือน เมื่อได้ฤกษ์ยามที่ดีจึงนำมาทำพิธีอีกครั้ง 

ขุนแผนแสนเยส นั้นถือได้ว่าสร้างจากสุดยอดวิชาเสน่สายขาวที่ได้รับสืบทอดจากครูหมอโกเมศ ในตำราวิชาไสยะนั้นมีเรื่องราวของวิชาเสน่ห์เมตตามหานิยมไว้หลากหลายตำรับวิธีการ ทั้งนี้ผู้ที่ศึกษาต้องพึงเข้าใจให้ดีก่อนว่า วิชาเสน่ห์กับเมตตานั้นมีความแตกต่างกันออกไปในตัวของมันเอง เหมือนดั่งวิชาคงกระพันกับชาตรีนั่นเอง …

อย่างในสายวิชาด้านคุ้มครอง คำว่าคงกระพันนั้น หมายถึง หนังเหนียวฟันแทงไม่เข้า แต่เจ็บทุกครั้งที่โดนมีดหรือคมกระสุน ส่วน ชาตรี นั้นหมายถึงโดนของมีคมของหนักทุ่มใส่แทงใส่ก็ไม่เข้าไม่เจ็บ ไม่เป็นอันตราย

(นี่คือความแตกต่างกันในรายละเอียด )

เช่นกันกับวิชาเมตตากับวิชาเสน่ห์ สองคำนี้ใช้คู่กันมากแต่มีความแตกต่างกันในตัว วิชาด้านเมตตามหานิยมนั้น หมายถึงไปที่ใดใครเห็นหน้าก็เอ็นดูอุปถัมภ์ช่วยเหลือทุกประการ ส่วนวิชาทางเสน่ห์นั้น เป็นวิชาที่เกี่ยวข้องกับแรงดึงดูดทางเพศ น้อมไปในทางลุ่มหลงเกี่ยวรัดมัดจิต ชวนให้คิดถึงทุกเวลานาที …

ขุนแผนแสนเยส ตรงกับ “ บ่วงสื่อเฮง ดีหมื่นเรื่อง “ คือใช้ได้สารพัดดีทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องเสน่หาหรือโชคลาภเงินทอง ตามแต่ผู้นั้นปรารถนาและต้องการ …

ขุนแผนแสนเยส สร้างตามตำรา ของ ครูหมอโกเมศที่ได้รับสืบทอดตำราและสายวิชา พราหมณ์ฮินดู โบราณจากอาจารย์ของท่านจากรู่นสู่รุ่น ซึ่งวิชาสายลึกลับประเภทนี้แบ่งออกเป็น ๕ ประเภทเลยทีเดียวคือ ๑ เมตตามหานิยม ทำให้เพื่อนฝูงรักใคร่ ๒ เสน่ห์หลงใหล สำหรับความรักระหว่างชายหญิงโดยเฉพาะ ๓ โชคลาภ ทำให้เกิดความโชคดีประการต่างๆ ๔ มหาละลวย

ทำให้เชื่อให้คล้อยตามลุ่มหลง ๕ ลือชา คือมีชื่อเสียงเกียรติยศ วิชาสายเสน่ห์เมตตานอกจากนำสิริมงคลความโชคดีประการต่างๆทั้ง ๕ แล้ว อำนาจเมตตายังเป็นอำนาจคุ้มครองชั้นสูง ตั้งแต่แคล้วคลาดจนถึงกลับร้ายกลายเป็นดีกลับกลับจากศัตรูกลายเป็นมิตรอีกด้วย

ส่วนวัตถุอาถรรพ์มวลสารที่นำมาจัดสร้างล้วนเป็นของทางสายเสน่ห์แบบฆารวาสที่ทำไว้อย่างถึงพริกถึงขิงที่ครูหมอโกเมศทำทิ้งไว้ก่อนละสังขาร ขุนแผนแสนเยส ใชได้ดีกับทุกเพศ ทั้งชาย หญิง และเพศที่สาม สร้างเสน่หาเมตตากับตนเองผู้ใดเห็นเกิดพิศวงหลงไหล คนรักคนชอบ จากทะเลาะเบาะแว้งกลับมารักกัน จากหมางเมินเลิกลาก็ให้คิดถึงกัน ผู้ใดนำไปใช้ทางด้านค้าขายให้นำขุนแผนนี้ไปไว้ในที่เก็บเงินหรือติดไว้หน้าร้านจะทำให้ผู้คนเข้าร้านและเงินทองไม่ขาดสาย ส่วนใครปราถนาสิ่งใดอธิษฐานสิ่งนั้นได้ตามปราถนา ดั่งชื่อ ขุนแผนแสนเยส