ประวัติครูบาคำแสน คุณาลังกาโร วัดป่าดอนมูล เชียงใหม่ อดีตพระเกจิชื่อดังแห่งล้านนา ต้นตำรับการสร้าง วัวธนู
มีนามเดิมว่า คำแสน เพ็งทัน เกิดเมื่อวันที่ 30 เม.ย.2436 ที่บ้านสันโค้งใหม่ ต.ทรายมูล อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่
บรรพชาเมื่ออายุ 17 ปี โดยมีพระอธิการโพธิ (ครูบา) วัดสันโค้ง เป็นพระอุปัชฌาย์ และต่อมาเข้าพิธีอุปสมบทที่วัดดอนมูล แห่งนี้
บวช 3 พรรษา ไปศึกษาพระปริยัติธรรมและกัมมัฏฐานกับพระอธิการแก้ว ชยเสโน (ครูบาแก้ว) ที่วัดน้ำจำ ต.ร้องวัวแดง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่
ก่อนหน้านั้น ทราบข่าวจากชาวบ้านว่าทางราชการได้จับ #ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา มากักขังไว้ที่วัดศรีดอนไชย จ.เชียงใหม่ จึงได้ชักชวนพระสงฆ์และชาวบ้านให้พากันไปเยี่ยม แต่คนทั้งหลายกลัวจะถูกตำหนิหรือถูกกลั่นแกล้งจากทางราชการ ในที่สุดก็เดินทางไปกับสามเณรและลูกศิษย์เพียง 2-3 คนเท่านั้น
เดินทางประมาณ 15-16 กิโลเมตรจะถึง วัดศรีดอนไชย เมื่อเข้าไปภายในวิหารนั้น มีพระสงฆ์สูงอายุรูปหนึ่ง นั่งอยู่ด้วยอาการสงบ ในลักษณะขัดสมาธิ ห่มผ้าสีกรัก ในขณะที่กราบลงไปนั้นก็เกิดความอ่อนไหว จนร้องไห้ด้วยความสงสารครูบาศรีวิชัยที่ต้องมาถูกจองจำและจะถูกจับสึกที่กรุงเทพฯ
เสียงร้องไห้ของครูบาคำแสนในขณะนั้นทำให้ครูบาศรีวิชัยเอื้อมมือมาตบที่ไหล่ พร้อมกล่าวว่า “ท่านเป็นพระจะร้องไห้ไม่ได้ พระเป็นผู้ตัดแล้วซึ่งกิเลส เมื่อเป็นเช่นนั้นต้องระงับอารมณ์ไม่ให้มีการร้องไห้เด็ดขาด” ขณะเดียวกันก็เริ่มสอนให้นั่งขัดสมาธิ เอามือประสานกันวางไว้บนตัก หลับตาพร้อมกับท่องคำว่า “นะโม” ในใจหลายสิบหลายร้อยจบ ให้ท่องไปเรื่อย
ครูบาคำแสนปฏิบัติตามคำสั่ง ท่องไป ท่องมาไม่นานอาการสะอึกสะอื้นและน้ำตาก็หายไป ครูบาศรีวิชัยจึงสั่งให้ลืมตาขึ้น
ครูบาศรีวิชัย อบรมเกี่ยวกับขันติให้ครูบาคำแสนฟัง พร้อมกับแนะนำสั่งสอนให้ศึกษาวิปัสสนา แล้วครูบาคำแสนก็นมัสการลา จึงนับว่าเป็นบทเรียนแรกในชีวิต เกี่ยวกับการศึกษาวิปัสสนา และท่านก็หาทางจะศึกษาในเรื่องนี้ ต่อมาเมื่อท่านเรียนกัมมัฏฐานจากครูบาแก้ว ชัยยะเสโน ก็ขอลาครูบาแก้วออกเดินธุดงค์จาริกไปในที่ต่างๆ เมื่อคราวเข้าพรรษาท่านจึงจะกลับมาอยู่ที่ วัดดอนมูล
พออายุ 34 ปี พระอธิการธรรมเสนา เจ้าอาวาสวัดดอนมูลมรณภาพ คณะศรัทธาจึงได้นิมนต์ครูบาคำแสนเป็นเจ้าอาวาสสืบมา
จนท่านมีอายุ 39 ปี มีพระธุดงค์ชื่อ #พระอาจารย์แหวน สุจิณโณ เดินธุดงค์มาพักอาศัยอยู่ที่วัดอู่ทรายคำ ในเมืองเชียงใหม่ เมื่อทราบดังนั้นท่านได้ให้โยมคนหนึ่งไปนิมนต์พระอาจารย์แหวนให้มาเผยแผ่พระธรรมและอบรมที่วัดดอนมูล
ต่อมา #พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต มาพำนักอยู่ที่วัดเจดีย์หลวง พระอาจารย์แหวนและครูบาคำแสนได้ไปนมัสการ และได้ถวายเป็น ศิษย์พระอาจารย์มั่นตั้งแต่บัดนั้นมา ต่อมาพระอาจารย์แหวนท่านได้จาริกไปมาในเมืองเชียงใหม่ และไปจำพรรษาที่วัดป่าห้วยน้ำริน อ.แม่แตง
ส่วนครูบาคำแสนหลังจากได้เรียน พระกัมมัฏฐานจากพระอาจารย์มั่นแล้วก็ได้เดินธุดงค์ไปยังประเทศพม่า ย่างกุ้ง หงสาวดี แล้วเดินย้อนกลับไปสู่ภาคอีสาน ไปอยู่กับท่านอาจารย์สิงห์ที่จังหวัดนครราชสีมา
จากนั้นจึงได้เดินทางกลับขึ้นไปทางเหนือ ไปอยู่ถ้ำเชียงดาว จ.เชียงใหม่ ถ้ำพระ จ.เชียงราย ถ้ำดอกคำพร้าว พระบาทสี่รอย อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ที่ใดเป็นที่วิเวก เป็นป่าเปลี่ยว ท่านก็ได้พักภาวนาเรื่อยไปไม่หยุด ไม่หย่อน ตามโอวาทของพระอาจารย์มั่นที่ได้ให้ข้อคิดไว้ว่า “ทำจริงก็คงจะได้ของจริงเท่านั้น” เป็นลูกศิษย์ที่อยู่ในมหานิกาย ไม่ต้องญัตติใหม่เป็นธรรมยุต
ครูบาคำแสนสร้างเครื่องรางของขลังหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นตะกรุดโทน ผ้ายันต์มหาสิทธิมงคล มหาสิทธิโชค และเครื่องรางที่ถือว่าท่านได้สร้างตามหลักโบราณคือ วัวธนู
มรณภาพอย่างสงบ วันอาทิตย์ที่ 4 ก.พ.2522 เวลา 10.12 น. สิริอายุ 86 ปี พรรษา 68