เทพบังบด อาจารย์โง่ก พจน์รัมย์

เป็นการเชิญญาณ ของเทวดาบังบดมาสถิตในเครื่องรางนี้ เครื่องรางของขลังที่มีพลังของเทวดา จะช่วยปกปักรักษา ทั้งแคล้วคลาดเมตตามหาบารมี มีเสน่ห์เมตตาต่อคนทั้งหลายไปไหนก็ก็ไม่เกลียด ช่วยเรื่องค้าขายโชคลาภ ท่านชอบคนมีสัจจะและคนทำบุญ ทุกท่านที่อยากได้มีไว้ครอบครองเพราะจะช่วยเสริมสร้างบารมีให้กับผู้ที่ได้ครอบครองสมัยก่อนเชื่อกันว่าชนชั้นราชาเท่านั้นที่มีสิทธิได้ครอบครอง บูชาด้วยดอกไม้หอมทุกวันพระและน้ำเปล่า

++++

“บังบด” หรือบางคนอาจเรียกว่า “ผีบังบด” เป็นชื่อที่คนโบราณเรียกขานกันว่าเป็นเทวดาจำพวกหนึ่งอยู่ชั้นจาตุมหาราช

ทว่ารูปร่างหน้าตา การแต่งเนื้อแต่งตัว การประกอบอาชีพก็เหมือนกับมนุษย์เราทั่วไปนั่นเอง เช่น เลี้ยงสัตว์ เลี้ยงวัว เลี้ยงควาย เรียกว่ามีวิถีชีวิตความเป็นอยู่ไม่ต่างจากมนุษย์ สถานที่อยู่ก็อยู่ในโลกมนุษย์นี่แหละ อาจจะอยู่ในหนองน้ำ ในป่า ในเขา ในจอมปลวก ในถ้ำ ที่โคนต้นไม้ ที่ปลายนา เป็นต้น แต่อยู่ในภพภูมิของเขาเราไม่สามารถมองเห็นเขาได้นอกจากเขาต้องการแสดงตัวให้เราเห็นเอง หรือไม่ก็คนที่จะเห็นเขาได้จะต้องเป็นคนที่มีศีลธรรมบริสุทธิ์บริบูรณ์ เช่น พระสงฆ์ผู้ทรงศีล ซึ่งก็จะเห็นว่ามีพระกรรมฐานหลายรูปได้เห็นคนพวกนี้ แม้จะอยู่ในโลกมนุษย์ แต่ก็เป็นภพภูมิหนึ่งเฉพาะของเขาในโลกมนุษย์เท่านั้น ถ้าเขาไม่ต้องการให้มนุษย์เห็นเขาก็จะบดบังไม่ให้เห็นด้วยอำนาจของเขา แต่ถ้าต้องการให้เห็น เขาจะแสดงตัวให้เห็นเอง อนึ่งแม้มนุษย์จะทำอะไรในที่ที่เขาอยู่ก็ไม่ถือว่ากล้ำกรายกัน เพราะอยู่กันคนละภพ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบให้เข้าใจแล้วก็เหมือนอยู่บนกระดาษแผ่นเดียวกันแต่เป็นภาพสามมิติทำนองนั้น

บังบดว่า “เป็นผู้ที่บูชาในคำสัตย์” อย่างยิ่งยวด และตั้งมั่นในศีลธรรมยิ่งกว่ามนุษย์ “ในเรื่องของการรักษาคำสัตย์ หรือศีลข้อที่ 4 มุสาวาทา เวรมณี มนุษย์ไม่ได้เศษเสี้ยวของพวกบังบดแม้แต่น้อย เพราะพวกมนุษย์ไม่ค่อยรักษาคำสัตย์กัน” เห็นได้ว่าพวกบังบดจะไม่ประพฤติตัวเหมือนพวกมนุษย์ แต่พวกเขาชอบในการทำบุญ เช่น ตักบาตร รักษาศีล และฟังธรรมอยู่เสมอ โดยเฉพาะการฟังธรรมก็จะไปฟังจากพระสงฆ์ของเรานี่เอง ซึ่งจะเห็นว่ามีพระกรรมฐานหลายท่านได้สนทนากับพวกบังบด